





– เดือน ตุลาคม 2567 ไม่มีผลการปฏิบัติงาน เนื่องจากอยู่ระหว่างสรรหา กต.ตร.สภ.ชุดใหม่ ทดแทนชุดเก่าที่หมดวาระลงเมื่อ วันที่ 18 ตุลาคม 2567 –




กต.ตร.ฯ
นายอำเภอเมืองนครนายก

กต.ตร.ฯ
ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครนายก

กต.ตร.ฯ
รอง ผกก.ป.สภ.เมืองนครนายก

กต.ตร.ฯ
รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนครนายก

กต.ตร.ฯรอง ผกก.(สอบสวน)สภ.เมืองนครนายก

กต.ตร.ฯ
สว.จร.สภ.เมืองนครนายก

กต.ตร.ฯ
ข้าราชการตำรวจรวจชั้นประทวนเลือกโดยข้าราชการตำรวจในสถานี

กต.ตร.ฯ
นายกเทศมนตรีเมืองนครนายก

กต.ตร.ฯ
นายก อบต.หินตั้ง

กต.ตร.ฯ
กำนันตำบลศรีนาวา

กต.ตร.ฯ
สาธารณสุขอำเภอเมืองนครนายก

กต.ตร.ฯ
พนักงานรัฐวิสาหกิจ

กต.ตร.ฯ
เจ้าหน้าที่ของรัฐ

กต.ตร.ฯ
ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา

กต.ตร.ฯ
ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสื่อสารมวลชน

กต.ตร.ฯ
ผู้ทรงคุณวุฒิด้านธุรกิจโรงแรม

กต.ตร.ฯ
ผู้ทรงคุณวุฒิด้านพัฒนาองค์กร

กต.ตร.ฯ
ผู้ทรงคุณวุฒิด้านชุมชน

กต.ตร.ฯ
ผู้ทรงคุณวุฒิด้านชุมชน

กต.ตร.ฯ
ผู้ทรงคุณวุฒิด้านพัฒนาองค์กรอาชีพธุรกิจส่วนตัว

กต.ตร.ฯ
ผู้ทรงคุณวุฒิด้านองค์กรเอกชนสาธารณประโยชน์ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยไม่แสวงหากำไร และมีวัตถุประสงค์ส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดในการดำเนินกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์อาชีพธุรกิจส่วนตัว

กต.ตร.ฯ
ผู้ทรงคุณวุฒิด้านองค์กรเอกชนสาธารณประโยชน์อาชีพดารานักแสดงและธุรกิจส่วนตัว

กต.ตร.ฯ
ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ธุรกิจโรงแรมธุรกิจบริการ พาณิชยกรรม อุตสาหกรรม หัตถกรรมหรือ
ธุรกิจการเงินอาชีพธุรกิจส่วนตัว

กต.ตร.ฯ
ผู้ทรงคุณวุฒิด้านธุรกิจโรงแรมอาชีพธุรกิจส่วนตัวอาชีพธุรกิจส่วนตัว

กต.ตร.ฯ
ผู้ทรงคุณวุฒิด้านองค์กรเอกชนสาธารณประโยชน์

กต.ตร.ฯ
เป็นเลขานุการ

กต.ตร.ฯ
เป็นผู้ช่วยเลขานุการ

กต.ตร.ฯ
เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
(1) รับแนวทางและนโยบายการพฒนาและการบรหารงานตารวจจาก ก.ต.ช. ไปปฏิบัตเพื่อให้เกิดผลตามนโยบาย
(2) ให้คำปรึกษาและข้อเสนอแนะการปฏิบัติงานของสถานีตำรวจ ให้เป็นไปตามนโยบายของ ก.ต.ช.
(3) ส่งเสริมให้มีการพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจและการบริหารงานตารวจ
(4) ตรวจสอบ ติดตาม และประเมินผลการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจในสถานตำรวจ ให้เป็นไปตามนโยบายของ ก.ต.ช.
(5) ให้ข้อมลข่าวสารและเสนอปัญหาความเดือดร้อนและความต้องการของประชาชนในเขตพื้นที่
(6) ให้คำแนะนำและช่วยเหลือสนับสนุนการประชาสัมพันธ์งานของสถานีตำรวจ
(7) เสริมสร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดีระหว่าง กต.ตร.สภ. กับข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่และประชาชนในพื้นที่
(8) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน หรือที่ปรึกษา เพื่อดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่ กต.ตร.สภ. มอบหมาย
(9) รายงานผลการปฏิบัติงานให้ ก.ต.ช. ทราบตามที่ ก.ต.ช. กำหนด
(10) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ ก.ต.ช. มอบหมายหรือตามที่มีกฎหมายกำหนดไว้ให้เป็นหน้าที่และอำนาจของ กต.ตร
ระเบียบ ก.ต.ช. ว่าด้วยคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ พ.ศ. 2567 มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ เนื่องจากราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศระเบียบ ก.ต.ช. เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2567 โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (ระเบียบฯ ข้อ 2)
ระเบียบ ก.ต.ช. พ.ศ. 2567 ส่งผลต่อระเบียบ ก.ต.ช. พ.ศ. 2549 ดังนี้
ระเบียบ ก.ต.ช. ทั้งสองฉบับมีความแตกต่างกัน ดังนี้
เมื่อระเบียบ ก.ต.ช. มีผลใช้บังคับ หน่วยปฏิบัติต้องดำเนินการดังนี้
ผู้ที่เคยได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการใน กต.ตร. แต่ละคณะตามระเบียบ ก.ต.ช. พ.ศ. 2549 ติดต่อกัน 2 วาระ ก่อนระเบียบ ก.ต.ช. พ.ศ. 2567 จะมีผลใช้บังคับ หากเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติตามที่ระเบียบ ก.ต.ช. พ.ศ. 2567 กำหนด และได้รับการคัดเลือกจากกรรมการในการสรรหาแล้ว สามารถได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการใน กต.ตร. คณะนั้น ๆ โดยถือเป็นวาระการดำรงตำแหน่งครั้งแรกในระเบียบ ก.ต.ช. พ.ศ. 2567 นี้ (ระเบียบฯ ข้อ 48)
จำนวนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน กต.ตร. แต่ละคณะ กำหนดไว้ดังนี้
กต.ตร. แต่ละคณะจะต้องมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษาอย่างน้อย 1 คน ดังนี้
กรรมการภาคประชาชนใน กต.ตร.กทม. และ กต.ตร.จังหวัด มีหลักเกณฑ์และวิธีการในการคัดเลือกดังนี้
กต.ตร. แต่ละคณะสามารถแต่งตั้งที่ปรึกษา กต.ตร. ได้ เนื่องจากระเบียบ ก.ต.ช. พ.ศ. 2567 ให้อำนาจ กต.ตร.กทม., กต.ตร.จังหวัด, กต.ตร.สน., และ กต.ตร.สภ. แต่งตั้งอนุกรรมการ, คณะทำงาน หรือที่ปรึกษา เพื่อดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่ กต.ตร.กทม., กต.ตร.จังหวัด, กต.ตร.สน., และ กต.ตร.สภ. แล้วแต่กรณีมอบหมาย โดยมิได้กำหนดคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามไว้แต่อย่างใด (ระเบียบฯ ข้อ 12(8), ข้อ 19(8), ข้อ 30(8) และข้อ 41(8))
ทั้งนี้ ประธาน กต.ตร. แต่ละคณะเป็นผู้มีอำนาจลงนามในคำสั่งแต่งตั้งที่ปรึกษา กต.ตร.
การมอบหมายข้าราชการตำรวจแต่ละงานของสถานีตำรวจเป็นกรรมการใน กต.ตร.สน./กต.ตร.สภ. แล้วแต่กรณี เป็นดุลยพินิจของหัวหน้าสถานีนั้น ทั้งนี้ เพื่อความเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ อาจมอบหมายผู้ที่มีอำนาจในการพิจารณาตัดสินใจและสั่งการในแต่ละสายงาน เช่น หัวหน้างาน เป็นต้น (ระเบียบฯ ข้อ 20(3) และข้อ 31(3))
กรณีกรรมการขอลาออกหรือพ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระตามที่ระเบียบ ก.ต.ช. พ.ศ. 2567 กำหนด สามารถดำเนินการสรรหาและแต่งตั้งผู้อื่นมาเป็นกรรมการทดแทนตำแหน่งที่ว่างลงได้
เว้นแต่ วาระการดำรงตำแหน่งจะเหลือไม่ถึง 90 วัน จะไม่ดำเนินการให้มีการสรรหาและแต่งตั้งก็ได้
ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการทดแทนตำแหน่งที่ว่าง จะไม่นับเป็นวาระการดำรงตำแหน่ง (ระเบียบฯ ข้อ 11, ข้อ 17, ข้อ 29 และข้อ 40)
กำหนดให้คำสั่งแต่งตั้งกรรมการใน กต.ตร. ทุกคณะ มีผลพร้อมกันตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2568 เป็นต้นไป และจะครบวาระการดำรงตำแหน่งระยะเวลา 2 ปี ในวันที่ 14 มกราคม 2570 โดยคำสั่งแต่งตั้งกรรมการใน กต.ตร. ทุกคณะในวาระถัดไป จะตรงกับวันที่ 15 มกราคม ของทุก 2 ปีที่ครบวาระตามที่ระเบียบฯ กำหนด (ระเบียบฯ ข้อ 47)
ทั้งนี้ การกำหนดให้คำสั่งแต่งตั้งกรรมการใน กต.ตร. ทุกคณะมีผลพร้อมกัน เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมของประชาชนไปได้ในทิศทางเดียวกัน สามารถติดตามประเมินผล และเพื่อเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จตามนโยบายการบริหารราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในเรื่องการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนและความโปร่งใส
ระเบียบ ก.ต.ช. ว่าด้วยคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ พ.ศ. 2567 มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ เนื่องจากราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศระเบียบ ก.ต.ช. เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2567 โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (ระเบียบฯ ข้อ 2)
ระเบียบ ก.ต.ช. พ.ศ. 2567 ส่งผลต่อระเบียบ ก.ต.ช. พ.ศ. 2549 ดังนี้
ระเบียบ ก.ต.ช. ทั้งสองฉบับมีความแตกต่างกัน ดังนี้
เมื่อระเบียบ ก.ต.ช. มีผลใช้บังคับ หน่วยปฏิบัติต้องดำเนินการดังนี้
ผู้ที่เคยได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการใน กต.ตร. แต่ละคณะตามระเบียบ ก.ต.ช. พ.ศ. 2549 ติดต่อกัน 2 วาระ ก่อนระเบียบ ก.ต.ช. พ.ศ. 2567 จะมีผลใช้บังคับ หากเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติตามที่ระเบียบ ก.ต.ช. พ.ศ. 2567 กำหนด และได้รับการคัดเลือกจากกรรมการในการสรรหาแล้ว สามารถได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการใน กต.ตร. คณะนั้น ๆ โดยถือเป็นวาระการดำรงตำแหน่งครั้งแรกในระเบียบ ก.ต.ช. พ.ศ. 2567 นี้ (ระเบียบฯ ข้อ 48)
จำนวนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน กต.ตร. แต่ละคณะ กำหนดไว้ดังนี้
กต.ตร. แต่ละคณะจะต้องมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษาอย่างน้อย 1 คน ดังนี้
กรรมการภาคประชาชนใน กต.ตร.กทม. และ กต.ตร.จังหวัด มีหลักเกณฑ์และวิธีการในการคัดเลือกดังนี้
กต.ตร. แต่ละคณะสามารถแต่งตั้งที่ปรึกษา กต.ตร. ได้ เนื่องจากระเบียบ ก.ต.ช. พ.ศ. 2567 ให้อำนาจ กต.ตร.กทม., กต.ตร.จังหวัด, กต.ตร.สน., และ กต.ตร.สภ. แต่งตั้งอนุกรรมการ, คณะทำงาน หรือที่ปรึกษา เพื่อดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่ กต.ตร.กทม., กต.ตร.จังหวัด, กต.ตร.สน., และ กต.ตร.สภ. แล้วแต่กรณีมอบหมาย โดยมิได้กำหนดคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามไว้แต่อย่างใด (ระเบียบฯ ข้อ 12(8), ข้อ 19(8), ข้อ 30(8) และข้อ 41(8))
ทั้งนี้ ประธาน กต.ตร. แต่ละคณะเป็นผู้มีอำนาจลงนามในคำสั่งแต่งตั้งที่ปรึกษา กต.ตร.
การมอบหมายข้าราชการตำรวจแต่ละงานของสถานีตำรวจเป็นกรรมการใน กต.ตร.สน./กต.ตร.สภ. แล้วแต่กรณี เป็นดุลยพินิจของหัวหน้าสถานีนั้น ทั้งนี้ เพื่อความเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ อาจมอบหมายผู้ที่มีอำนาจในการพิจารณาตัดสินใจและสั่งการในแต่ละสายงาน เช่น หัวหน้างาน เป็นต้น (ระเบียบฯ ข้อ 20(3) และข้อ 31(3))
กรณีกรรมการขอลาออกหรือพ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระตามที่ระเบียบ ก.ต.ช. พ.ศ. 2567 กำหนด สามารถดำเนินการสรรหาและแต่งตั้งผู้อื่นมาเป็นกรรมการทดแทนตำแหน่งที่ว่างลงได้
เว้นแต่ วาระการดำรงตำแหน่งจะเหลือไม่ถึง 90 วัน จะไม่ดำเนินการให้มีการสรรหาและแต่งตั้งก็ได้
ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการทดแทนตำแหน่งที่ว่าง จะไม่นับเป็นวาระการดำรงตำแหน่ง (ระเบียบฯ ข้อ 11, ข้อ 17, ข้อ 29 และข้อ 40)
กำหนดให้คำสั่งแต่งตั้งกรรมการใน กต.ตร. ทุกคณะ มีผลพร้อมกันตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2568 เป็นต้นไป และจะครบวาระการดำรงตำแหน่งระยะเวลา 2 ปี ในวันที่ 14 มกราคม 2570 โดยคำสั่งแต่งตั้งกรรมการใน กต.ตร. ทุกคณะในวาระถัดไป จะตรงกับวันที่ 15 มกราคม ของทุก 2 ปีที่ครบวาระตามที่ระเบียบฯ กำหนด (ระเบียบฯ ข้อ 47)
ทั้งนี้ การกำหนดให้คำสั่งแต่งตั้งกรรมการใน กต.ตร. ทุกคณะมีผลพร้อมกัน เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมของประชาชนไปได้ในทิศทางเดียวกัน สามารถติดตามประเมินผล และเพื่อเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จตามนโยบายการบริหารราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในเรื่องการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนและความโปร่งใส
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
ยอมรับทั้งหมด